ความผิดพลาดที่พบได้ทั่วไปสำหรับการฝันรู้ตัวและการถอดจิต

– ขาดความพยายามที่จะแยกจิตออกจากร่าง

ลืมที่จะลองแยกจิตออกจากร่างในทันทีหลังจากที่รู้สึกตัว ก่อนที่จะลองใช้เทคนิคต่างๆ ไปตามลำดับ แม้ว่าประสบการณ์โดยรวมจะได้มาจากขั้นตอนนี้กว่า 50 เปอร์เซ็นต์เลยก็ตาม

– ขาดความตั้งใจจริง

ความต้องการที่จะพบเทคนิคที่ใช้ได้ผล ไม่ว่ามันจะเป็นเพียงหลักเกณฑ์ที่สำคัญ หรือว่าเป็นสิ่งจำเป็นจริงๆ สำหรับความสำเร็จในการใช้ขั้นตอนเทคนิคทางอ้อมก็ตาม การพิจารณาตัดสินไม่ควรจะทำเพียงผิวเผินเท่านั้น แต่จะต้องมีความตั้งใจอย่างแรงกล้า ที่จะทำให้การดำเนินการต่างๆ สัมฤทธิ์ผลให้ได้

– ทำน้อยกว่า 4 รอบ

ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น และไม่ว่าความคิดใดๆ จะเกิดขึ้นก็ตาม คุณควรจะลองทำเทคนิคเหล่านั้นดูไม่น้อยกว่า 4 รอบเป็นอย่างน้อย โดยสมมุติว่ายังไม่มีวิธีการใด้ที่ใช้ได้ผลเลย

– เปลี่ยนเทคนิคโดยไม่จำเป็น

ถึงจะได้รับคำแนะนำอย่างชัดเจนดีแล้ว แต่ผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นใหม่ก็มักจะเปลี่ยนเทคนิคหลังจากผ่านไปได้ 3 ถึง 5 วินาที แม้ว่าเทคนิคที่ใช้อยู่เริ่มที่จะได้ผลแล้ว ซึ่งนี่ถือเป็นความผิดพลาดที่รุนแรงทีเดียว เพราะว่าถ้าเทคนิคใดก็ตามเริ่มได้ผลบางแล้ว แม้ว่าจะเพียงน้อยนิดก็ตาม มันก็ถึงเวลาแล้ว ที่จะใช้เทคนิคการแยกจิตออกจากร่าง เพื่อให้ได้พบกับประสบการณ์ฝันรู้ตัว/แยกจิตออกจากร่างตามที่คุณต้องการ

– ทำเทคนิคนั้นๆ ต่อไปโดยไม่จำเป็น

ถ้าเทคนิคใดไม่ได้ผลเลยตั้งแต่ช่วง 3 ถึง 5 วินาทีแรก ก็ควรจะลองเปลี่ยนไปใช้เทคนิคอื่นๆ ดูได้แล้ว

– วิเคราะห์หรือคิดมากเกินไป

ถ้าหากคุณทำการวิเคราะห์สิ่งที่เกิดขึ้นขณะใช้ผ่านเทคนิคต่างๆ เมื่อรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา และปรากฎว่าคุณไม่ได้เพ่งความสนใจไปที่เทคนิคเหล่านั้นมากพอ อีกทั้งมัวแต่ไปสนใจประเด็นปลีกย่อยอย่างอื่นมากเกินไป มีแนวโน้มว่าความรู้สึกต้องการที่จะได้ประสบการณ์ฝันรู้ตัวด้วยเทคนิคนั้นๆ อาจจะเข้าครอบงำคุณแทน จนกระทั่งทำให้จิตใจของคุณไม่มีความเป็นอิสระมากพอที่จะพบกับประสบการณ์ที่คุณต้องการได้

– ตื่นตัวมากเกินไป (ต้องไม่พยายามหรือเฉื่ยยชาจนเกินเหตุ)

คุณควรจะดำเนินการตามคำแนะนำต่างๆ ให้เป็นไปได้อย่างอัตโนมัติ จนรู้สึกไม่กังวลต่อความรู้สึกหรือความรับรู้ต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นเมื่อคุณรู้สึกตัวตื่นขึ้น

– พยายามนานกว่าหนึ่งนาที

ถ้าไม่มีผลใดๆ เกิดขึ้นเลยหลังจากที่ลองใช้เทคนิคใดไปหนึ่งนาทีแล้ว นั่นก็หมายความว่าเดิมพันในความสำเร็จของคุณจะมากขึ้น ซึ่งอาจจะไม่เป็นผลดีได้เหมือนกัน

– การแยกจิตออกจากร่างไม่สมบูรณ์

เมื่อพยายามที่จะแยกจิตออกจากร่างอยู่นั้น บางครั้งมันอาจจะไม่ได้เกิดขึ้นได้ง่ายๆ หรือเกิดขึ้นอย่างสมบูรณ์แบบแต่อย่างใด บางครั้งมันอาจดูเฉื่อยเนือย และความรู้สึกเหมือนกับติดอยู่กับร่างทั้งสองร่างในเวลาเดียวกันก็เป็นสิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้ ดังนั้นอย่าให้สถานการณ์เช่นนี้มาทำให้คุณต้องยอมแพ้ และอย่าหยุดพยายามแยกจิตออกจากร่างถ้ามีเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้น

– ไม่รู้ตัวหรือตระหนักว่าอยู่ในความฝันรู้ตัวหรือการแยกจิตออกจากร่างแล้ว

ตัวอย่างเช่น เมื่อทำการสังเกตรูปภาพอยู่นั้น ผู้เชี่ยวชาญมักจะถูกรู้สึกถึงการถูกดึงเข้าสู่รูปภาพนั้นๆ หรืออาจรู้สึกเหมือนถูกโยนเข้าสู่โลกอีกโลกหนึ่งด้วยตัวของตัวเองก็เป็นได้ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญมักจะคิดว่าพวกเขาจะต้องประสบกับความรู้สึกของการแยกจิตออกจากร่างด้วยตัวเอง ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลที่ว่าเพราะอะไรพวกเขาอาจจะย้อนกลับคืนสู่ร่างกายของตัวเอง เพื่อที่จะได้พบกับประสบการณ์ดังกล่าวได้

– รู้สึกตัวพร้อมๆ การขยับร่างกาย

การรู้สึกตัวตื่นขึ้นโดยไม่มีการขยับร่างกายเลยนับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี แต่ก็ไม่ได้ถึงกับเป็นข้อบังคับที่ขาดเสียไม่ได้แต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ไม่มีเหตุผลใดๆ เลยที่จะละทิ้งโอกาสแต่ละครั้งไป โดยการเฝ้ารอแต่การรู้สึกตัวตื่นขึ้นในแบบที่เหมาะสมเท่านั้น กล่าวคือคุณควรจะใช้ประโยชน์จากทุกๆ ครั้งที่รู้สึกตัวตื่นขึ้นให้ได้มากที่สุดนั่นเอง

– พลาดวินาทีแรก

คุณควรพยายามพัฒนานิสัยในการดำเนินการตามเทคนิคต่างๆ ให้เป็นไปได้อย่างอัตโนมัติและฉับพลันทันทีเมื่อรู้สึกตัวตื่นขึ้น โดยไม่มีการสูญเสียเวลาไปแม้แต่วินาทีเดียว

– ใช้เทคนิคเพียงเทคนิคเดียว

การใช้เทคนิคเพียงเทคนิคเดียวเมื่อรู้สึกตัวตื่นขึ้น แทนที่จะใช้สัก 2-3 วิธีนั้น เป็นการนำไปสู่โอกาสที่จะได้พบกับประสบการณ์ฝันรู้ตัว หรือการแยกจิตออกจากร่างที่ลดต่ำลงมากพอสมควร

หลักการ 4 ข้อสู่ความสำเร็จในการสร้างฝันรู้ตัวและการถอดจิต

1. ลงมือทำไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

2. ทำอย่างเอาจริงเอาจัง

3. เชื่อมั่นในตัวเอง

4. ทำจนทุกอย่างเป็นไปโดยอัตโนมัติ