การฝันรู้ตัวและประสบการณ์การแยกจิตออกจากร่าง: เทคนิคที่ง่ายที่สุด

การฝันรู้ตัวและประสบการณ์การแยกจิตออกจากร่าง: เทคนิคที่ง่ายที่สุด

วัฏจักรของวิธีการวัดทางอ้อม (indirect techniques) ประกอบด้วยความพยายามที่จะแยกจิตออกจากร่างในทันทีที่รู้สึกตัวตื่นขึ้น และถ้าหากไม่ประสบผลสำเร็จ ก็จะเปลี่ยนไปใช้เทคนิคอื่นในทันที จนกว่าวิธีการใดวิธีการหนึ่งจะได้ผล ซึ่งหลังจากนั้นการแยกจิตออกจากร่างก็มีโอกาสที่จะเป็นไปได้มากขึ้น ทั้งนี้โดยทั่วไปแล้ว การทำขั้นตอนต่างๆ อย่างถูกต้องทุกขั้นตอนสัก 1 ถึง 5 ครั้งก็น่าจะให้ผลลัพธ์ที่ต้องการได้แล้ว

เทคนิคที่อธิบายด้านล่างนี้จะทำงานได้ดีพอๆ กัน ทั้งในตอนที่คุณตื่นจากการงีบหลับในตอนกลางวัน และจากการนอนหลับตอนดึกสงัดในยามค่ำคืน

ขั้นที่ 1: นอนหลับ 6 ชั่วโมง จากนั้นตื่นขึ้นมาด้วยนาฬิกาปลุก

(คุณอาจจะข้ามขั้นตอนนี้ไปก็ได้)

ในคืนก่อนวันหยุด ซึ่งคุณไม่จำเป็นต้องตื่นแต่เช้า ให้คุณเข้านอนตามเวลาปกติ และตั้งนาฬิกาปลุกเอาไว้ให้คุณนอนหลับเพียงประมาณ 6 ชั่วโมง และเมื่อนาฬิกาปลุกดังขึ้น คุณจะต้องลุกขึ้นจากเตียงเพื่อดื่มน้ำหนึ่งแก้ว แล้วไปเข้าห้องน้ำ แล้วอ่านคำแนะนำนี้อีกครั้ง

ขั้นที่ 2: กลับไปนอนด้วยความตั้งใจ

(คุณอาจข้ามขั้นตอนนี้ไปก็ได้)

หลังจาก 3 ถึง 50 นาทีที่ได้ตื่นขึ้นแล้ว ให้กลับไปนอนอีกครั้ง แล้วจดจ่ออยู่กับความตั้งใจของคุณ ว่าทำอย่างไรคุณจะสามารถใช้ประโยชน์จากเทคนิคทางอ้อมในการตื่นขึ้นในครั้งต่อๆ ไปได้ เพื่อการแยกจิตออกจากร่างกายของคุณ และสนับสนุนแผนที่คุณได้เตรียมเอาไว้ โดยที่การตื่นขึ้นในครั้งต่อไปควรจะเป็นไปตามธรรมชาติ และถ้าหากห้องนอนของคุณมีแสงสว่างมากเกินไป คุณก็สามารถใส่ที่ปิดตาได้ หรือถ้ามีเสียงรบกวนมากเกินไป ก็สามารถใช้ที่อุดหูช่วยก็ได้

การฝันรู้ตัวและประสบการณ์การแยกจิตออกจากร่าง: เทคนิคที่ง่ายที่สุด

ในระหว่างนี้ ให้คุณมุ่งจุดสนใจยังประเด็นที่ว่า ทำอย่างไรคุณจะตื่นขึ้นได้ โดยไม่จำเป็นต้องเคลื่อนไหวร่างกายของคุณแต่อย่างใด แม้ว่าเรื่องนี้อาจจะไม่ใช่เรื่องที่ขาดไม่ได้เอาเสียเลยก็ตาม ทว่ามันก็สามารถเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเทคนิคทางอ้อมได้เป็นอย่างดี

ต่อไปก็ให้นอนหลับสัก 2 ถึง 4 ชั่วโมง แต่ใช้ประโยชน์จากการรู้สึกตัวตามธรรมชาติ ซึ่งจะมีขึ้นเป็นช่วงๆ แต่จะมีการรู้สึกตัวบ่อยกว่าปกติ โดยหลังจากการลองพยายามในแต่ละครั้ง ไม่ว่าจะประสบผลสำเร็จหรือไม่ก็ตาม คุณจะต้องกลับไปนอนให้หลับด้วยความตั้งใจที่จะตื่นขึ้นแล้วลองดูใหม่อีกครั้ง โดยจะต้องเป็นความตั้งใจในระดับเดิม ด้วยวิธีการนี้นี่เอง คุณสามารถลองทำดูได้หลายครั้งในแต่ละเช้าที่ตื่นขึ้นมา

ขั้นที่ 3: แยกจิตออกจากร่างในทันทีที่คุณตื่นขึ้นหรือรู้สึกตัว

ในแต่ละครั้งที่รู้สึกตัวตื่นขึ้นอีกครั้ง พยายามอย่าขยับร่างกายหรือเปิดตาของคุณ ตรงกันข้าม ให้ลองพยายามแยกจิตออกจากร่างของคุณในทันทีก่อน ซึ่งกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ของความสำเร็จที่ได้จากเทคนิคทางอ้อมนั้น มาจากขั้นตอนแรกที่ง่ายๆ ขั้นตอนนี้นี่เอง และถือเป็นหนึ่งในวิธีที่ง่ายมาก ง่ายเสียจนไม่ค่อยมีใครสนใจว่ามันจะใช้ได้ผล

การที่จะแยกจิตออกจากร่างนั้น ให้ลองยืนขึ้น เหยียดตัว หรือยกตัวขึ้น ลองทำดูโดยการกำหนดความรู้สึกให้ร่างกายของคุณเอง แต่จะต้องไม่มีการขยับกล้ามเนื้อส่วนใดทั้งสิ้น ซึ่งมันก็จะให้ความรู้สึกเหมือนการเคลื่อนไหวร่างกายตามปกติได้อยู่เหมือนกัน และถ้าความรู้สึกดังกล่าวชัดเจนขึ้น ก็อย่าไปกังวลมากนักว่าควรจะทำอย่างไรดี ให้ลองพยายามแยกจิตออกจากร่างของคุณดู ไม่ว่าจะวิธีใดก็ตามที่คุณคิดว่าน่าจะเป็นไปได้ ซึ่งโดยปกติสำหรับคนส่วนใหญ่มากแล้ว มักจะพอรู้ได้ด้วยสัญชาตญาณของตัวเองอยู่แล้ว ว่าวิธีไหนที่ได้ผล วิธีไหนไม่ได้ผล แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ จะต้องไม่คิดมากเกินไป และจะต้องไม่พลาดวินาทีแรกที่รู้สึกตัวเท่านั้นเอง

ขั้นตอนที่ 4: ใช้เทคนิคต่างๆ หลังจากพยายามแยกจิตออกจากร่าง

ถ้าการแยกจิตออกจากร่างแบบทันทีทันใดไม่ได้ผล ซึ่งคุณมักจะรู้หลังจากผ่านไปสัก 3-5 วินาทีแล้ว ให้ลองดูใหม่ระหว่างขั้นตอนที่ 2 และ 3 ด้วยเทคนิคต่างๆ ที่คุณคิดว่าน่าจะเหมาะกับคุณมากที่สุด จนกว่าวิธีการใดวิธีการหนึ่งจะได้ผลขึ้นมา และถ้าเป็นกรณีนี้ ให้คุณเลือกเทคนิค 5 วิธีต่อไปนี้ขึ้นมาสัก 2 ถึง 3 วิธี เพื่อลองนำมาใช้กับขั้นตอนดังกล่าว

เทคนิคการหมุนรอบตัวเอง

ใช้เวลาประมาณ 3 ถึง 5 วินาที ให้ลองจินตนาการกว่าคุณกำลังหมุนวนไปรอบๆ ร่างกายของคุณ โดยมีแกนเป็นแนวตั้งจากศรีษะถึงเท้า พยายามจับความรู้สึกที่เกิดขึ้นให้ชัดเจนที่สุด แต่ถ้าไม่มีความรู้สึกใดๆ เกิดขึ้น ให้ลองเปลี่ยนไปใช้วิธีอื่นดู อย่างไรก็ตาม ถ้าความรู้สึกที่เกิดขึ้นคล้ายกับของจริง หรืออย่างน้อยก็เกิดขึ้นบ้าง ก็ให้มุ่งความสนใจมายังเทคนิคนี้เลย โดยลองทำดูด้วยความจริงจังมากขึ้น จนกว่าความรู้สึกถึงการหมุนดังกล่าวจะมีความเสถียรและคล้ายของจริงมาก จากนั้นคุณก็สามารถลองแยกจิตออกจากร่างได้ โดยใช้ความรู้สึกดังกล่าวเป็นจุดเริ่มต้น

เทคนิคนักว่ายน้ำ

ใช้เวลาประมาณ 3 ถึง 5 วินาที ให้ลองจินตนาการโดยปราศจากข้อสงสัยใดๆ ว่าคุณกำลังว่ายน้ำอยู่ หรือกำลังทำท่าว่ายน้ำด้วยแขนทั้งสองข้างของคุณก็ได้ โดยจับความรู้สึกดังกล่าวให้ได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม แต่ถ้าหากยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีก ให้ลองเปลี่ยนไปใช้วิธีการอื่นแทน อย่างไรก็ตาม คุณยังไม่จำเป็นเปลี่ยนวิธีการแต่อย่างใด ถ้าปรากฎว่าคุณรู้สึกได้ว่ากำลังว่ายน้ำอยู่จริงๆ ถ้าเป็นเช่นนั้นก็ให้ตั้งใจว่ายต่อไป ซึ่งหลังจากนั้น ความรู้สึกว่าได้ว่ายน้ำอยู่จริงๆ จะเกิดขึ้นเอง ซึ่งนั่นก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ฝันรู้ตัวและจิตออกจากกายแล้ว และไม่จำเป็นต้องแยกจิตออกจากกายอีก อย่างไรก็ตาม ถ้าความรู้สึกดังกล่าวเกิดขึ้นในแบบที่ว่าคุณยังคงนอนอยู่บนเตียง แทนที่จะอยู่ในน้ำ คุณก็จำเป็นต้องใช้เทคนิคแยกจิตออกจากร่างเข้าช่วย โดยการใช้ความรู้ว่าตัวเองกำลังว่ายน้ำอยู่เป็นจุดเริ่มต้น

เทคนิคการสังเกตรูปภาพ

เพ่งเล็งไปที่ความว่างเปล่าก่อนที่จะปิดตาลงสัก 3 ถึง 5 วินาที ถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ให้เปลี่ยนไปใช้วิธีอื่นดู แต่ถ้าหากคุณเห็นอะไรขึ้นมาในจินตนาการบ้าง ให้เพ่งไปที่สิ่งสิ่งนั้น จนกว่ามันจะดูเป็นจริงเป็นจังขึ้นมา และในระหว่างนั้น ให้แยกจิตออกจากร่าง หรือยอมให้ตัวคุณถูกดึงเข้าสู่จินตนการดังกล่าวก็ได้ โดยที่ในขณะที่เพ่งไปที่จินตนาการดังกล่าวนั้น เป็นเรื่องสำคัญมากที่คุณจะต้องไม่พยายามพินิจพิเคราะห์เพื่อเก็บรายละเอียดมากเกินไป มิฉะนั้นแล้วภาพดังกล่าวอาจจะหายไปได้ คุณจะต้องมองผ่านทะลุภาพดังกล่าวไป ซึ่งจะทำให้มันมีความสมจริงมากขึ้น

เทคนิคการจับความรู้สึกที่มือ

ใช้เวลาสัก 3 ถึง 5 วินาที ให้จินตนาการอย่างชัดเจนและปราศจากความสงสัย ว่าคุณกำลังถูมือทั้งสองเข้าด้วยกันใกล้ๆ กับตาของคุณ ลองทำดูไม่ว่าความรู้สึกที่เกิดขึ้นเบื้องหน้าจะเป็นอย่างไรก็ตาม และให้ดูรวมทั้งลองฟังเสียงการถูมือดังกล่าวดูด้วยก็ได้ ถ้าปรากฎว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ให้ลองเปลี่ยนไปใช้วิธีการอื่นดู แต่ถ้าปรากฏว่าความรู้สึกดังกล่าวเริ่มชัดเจนขึ้น ให้ใช้วิธีการนี้ต่อไป และตั้งใจทำจนกว่ามันจะรู้สึกว่ากลายเป็นจริงขึ้นมาอย่างสมบูรณ์แบบ หลังจากนั้นคุณสามารถลองแยกจิตออกจากร่างคุณได้ โดยการใช้ความรู้สึกที่เกิดขึ้นจากเทคนิคนี้เป็นจุดเริ่มต้น

เทคนิคการแกว่งมือหรือเท้า

ลองแกว่งมือหรือเท้าไปมาในความรู้สึกสัก 3 ถึง 5 วินาที โดยห้ามขยับเขยื้อนกล้ามเนื้อส่วนใด และห้ามจินตนาการว่ามือหรือเท้าของคุณออกแรงแกว่งด้วยตัวมันเอง แต่เป็นการแกว่งตามแรงกดและปล่อยด้วยนิ้วมืออย่างแรง เพื่อให้มือหรือเท้าส่ายตามไปมาได้ ถ้าปรากฎว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย ให้ลองเปลี่ยนไปใช้วิธีอื่นดู แต่ถ้าหากมีความรู้สึกอยู่บ้างเล็กน้อยถึงการเคลื่อนที่และความรู้สึกถึงการเคลื่อนที่ที่กำลังเกิดขึ้น ให้พุ่งความสนใจไปที่เทคนิคนี้เป็นหลัก โดยอาจลองเพิ่มระยะของการเคลื่อนที่ดูเท่าที่จะเป็นไปได้ และเมื่อคุณสามารถแกว่งมือหรือเท้าได้อย่างน้อยประมาณ 4 นิ้วแล้ว ให้ลองแยกจิตออกจากร่างดูได้

นั่นเป็นสิ่งที่คุณต้องลองทำดูสัก 3 ถึง 5 วินาที โดยเลือกวิธีการที่ชอบสัก 2 ถึง 3 วิธี ซึ่งจะเป็นการนำไปสู่เทคนิคทางอ้อมนั่นเอง ในขณะที่จิตแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญทางจิตเองก็จะใช้วิธีการเหล่านี้เหมือนกัน โดยการสลับไปมาระหว่างเทคนิคต่างๆ ที่มีอยู่ตลอดการทดสอบ เพื่อมองหาวิธีที่จะใช้ได้ผล และเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ที่จะต้องทำเทคนิค 2 ถึง 3 เทคนิคดังกล่าวอย่างน้อย 4 รอบ โดยที่แต่ละครั้งที่ทำจะต้องไม่เกินครั้งละหนึ่งนาที

ตัวอย่างเช่น ขั้นตอนทั้งหมดอาจจะเกิดขึ้นดังต่อไปนี้: ผู้ทำการทดลอง (หรือผู้เชี่ยวชาญด้านการฝันรู้ตัวและประสบการการแยกจิตออกจากร่าง) จะเข้านอนเวลา 23.30 น. และตั้งนาฬิกาปลุกเอาไว้ที่ 6 โมงเช้า; เมื่อถึง 6 โมงเช้า เขาจะตื่นขึ้นตามนาฬิกาปลุก จากนั้นไปเข้าห้องน้ำ ดื่มน้ำ และพิจารณทบทวนเทคนิคทางอ้อม รวมไปถึงแผนการปฏิบัติที่น่าสนใจด้วย (ตัวอย่างเช่น มองไปที่กระจก และเหาะไปดาวอังคาร เป็นต้น); เมื่อถึง 6.05 น. เขาจะกลับไปนอนด้วยความตั้งใจอันหนักแน่น ที่จะเข้าสู่ประสบการณ์ฝันรู้ตัว หรือการแยกจิตออกจากร่างในแต่ละครั้งที่ตื่นขึ้นมาอีก; เมื่อถึงเวลา 7.35 น. (หรือเมื่อตื่นขึ้นเองตามธรรมชาติ) เขาจะตื่นขึ้นโดยไม่ได้คาดเอาไว้ และลองแยกจิตออกจากร่างในทันทีทันใดที่รู้สึกตัว; เมื่อไม่สามารถแยกจิตออกจากร่างได้ภายใน 3 ถึง 5 วินาที เขาก็จะเริ่มที่จะลองวิธีการหมุนรอบตัวเอง ; จากนั้นเขาก็จะใช้วิธีนักว่ายน้ำ แต่ถ้ายังไม่ได้ผลภายใน 3 ถึง 5 วินาทีอีก เขาก็จะแกว่งมือหรือเท้าไปมาในความรู้สึก และถ้ายังไม่ได้ผลภายใน 3 ถึง 5 วินาทีอีก เขาก็จะกลับไปทำวิธีการหมุนรอบตัวเองอีกครั้ง จากนั้นก็เป็นเทคนิคนักว่ายน้ำ จากนั้นก็เป็นแกว่งมือหรือเท้าไปมา โดยในแต่ละครั้งจะใช้เวลาประมาณ 3 ถึง 5 วินาที; ในรอบที่สาม เขาเริ่มที่จะทำวิธีการหมุนรอบตัวเอง และปรากฎว่ามันเริ่มได้ผลอย่างไม่คาดฝัน เขาจึงเก็บวิธีการนี้เอาไว้ และทำให้หนักเท่าที่เขาจะสามารถทำได้ และทำการแยกจิตออกจากร่างในทันทีทันใดที่เป็นไปได้: จากนั้นเขาก็จะไปที่กระจก เพ่งมองเข้าไปอย่างพินิจพิเคราะห์ ซึ่งจะเป็นการเพิ่มความเข้มข้นของความรู้สึกด้านต่างๆ มากขึ้น; จากนั้นก็ใช้เทคนิคการหายตัว (translocation technique) แล้วพบว่าตัวเองอยู่บนดาวอังคาร; แต่ในที่สุดก็ต้องกลับเข้าสู่ร่างอย่างไม่คาดคิด; จากนั้นเขาก็พยายามที่จะออกจากร่างอีกครั้ง แต่ก็ไม่สามารถทำได้แล้ว เขาจึงตั้งใจที่จะใช้วิธีนี้ในครั้งต่อไป ซึ่งในสุดเขาก็อยู่บนดาวอังคารได้นานกว่าเดิม

การฝันรู้ตัวและประสบการณ์การแยกจิตออกจากร่าง: เทคนิคที่ง่ายที่สุด

ขอเพียงคุณใช้เทคนิคที่รู้สึกว่าเหมาะและเป็นธรรมชาติกับคุณมากที่สุด โดยลองทำซ้ำไปซ้ำมา แล้วคุณจะสามารถเปิดตัวเองสู่จักรวาลใหม่ได้ในที่สุด ซึ่งนั่นก็คือการฝันรู้และการแยกจิตออกจากร่างนั่นเอง!

ถ้าคุณใช้เวลาสักวันละ 10 ถึง 30 นาทีต่อวัน เพื่อฝึกฝนเทคนิคและกระบวนการต่างๆ อย่างค่อยเป็นค่อยไป วิธีการเหล่านั้นจะถูกจดจำและทำงานเข้ากันได้ดีขึ้น ซึ่งนั่นเป็นการเพิ่มโอกาสที่จะประสบผลสำเร็จได้เป็นอย่างดี

ความรู้สึกว่ากำลังฝันอยู่นั้นก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ฝันรู้ตัวด้วยเช่นกัน ถ้าหากคุณตระหนักอย่างปัจจุบันทันด่วนว่าคุณกำลังฝันขณะนอนหลับ นั่นก็ถือว่าเป็นฝันรู้ตัวแล้ว หลังจากนั้นคุณควรจะดำเนินการต่อ เพื่อสร้างแผนปฏิบัติของตัวคุณเอง และทำให้สภาวะนั้นมีความแน่นอนมากขึ้นไปอีก อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกว่ากำลังฝันนั้นที่เกิดขึ้นนั้น มันอาจจะเป็นผลข้างเคียง (side effect) ของการทำตามขั้นตอนและเทคนิคต่างๆ ของเราก็เป็นได้ ซึ่งผลกระทบดังกล่าวถือว่าเป็นเรื่องธรรมดามาก และมักจะเกิดขึ้นได้อยู่เสมอ

ถ้าความรู้สึกของคุณในการฝันรู้ตัวหรือการแยกจิตออกจากร่างนั้น ค่อนข้างทึมๆ ทึบๆ (เช่น มองเห็นไม่ชัด หรือรู้สึกชาๆ ที่ร่างกาย) ให้คุณลองไล่แตะสัมผัสทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบๆ ตัวคุณดูอย่างจริงๆ จังๆ และพินิจพิเคราะห์รายละเอียดของสิ่งของเหล่านั้นให้ถ้วนทั่วและละเอียดลออ ซึ่งวิธีนี้จะช่วยให้คุณมีประสบการณ์ที่สมจริงมากยิ่งขึ้น และวิธีการเดียวกันนี้ก็ควรจะเอาไปใช้เพื่อคงไว้ซึ่งความฝันรู้ตัวด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออาการแรกของการคืนกลับสูร่างเกิดขึ้น (ตัวอย่างเช่น เมื่อทุกอย่างดูเหมือนจะพร่ามัวหรือมืดสลัวลง)

ขั้นตอนที่ 5: หลังจากความพยายาม

การฝันรู้ตัวและประสบการณ์การแยกจิตออกจากร่าง: เทคนิคที่ง่ายที่สุด

ไม่ว่าจะสำเร็จหรือไม่ก็ตาม ถ้าหากเป็นไปได้ และคุณยังต้องการประสบการณ์การฝันรู้ตัว หรือการแยกจิตออกจากร่างอยู่ คุณสามารถกลับไปนอนหลับอีกครั้ง เพื่อลองใช้วิธีการอื่นๆ ต่อไปอีกก็ได้ เพราะนั่นไม่เพียงแต่จะเพิ่มโอกาสที่คุณจะสามารถฝันรู้ตัวได้ภายในวันเดียวเท่านั้น แต่มันอาจจะหมายถึงการฝันรู้ตัวได้หลายๆ ครั้งตั้งแต่วันแรกๆ ที่ลองทำตัวเลยทีเดียว!

แม้ว่าส่วนมากของความพยายามที่ไม่สำเร็จจะจบลงไม่เกินภายในเวลาหนึ่งนาทีเท่านั้น และอาจจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นตลอดช่วงเวลาดังกล่าวเลย แต่มันก็มักจะมีประสิทธิภาพมากกว่า ที่จะนอนหลับอีกครั้ง แล้วลองพยายามดูในครั้งต่อไปที่รู้สึกตัวตื่นขึ้น ซึ่งดีกว่าการดึงดันที่จะเค้นเอาผลลัพธ์ออกมาให้ได้จากความพยายามในครั้งนี้เพียงครั้งเดียวอย่างแน่นอน